ก่อนซื้อเครื่องช่วยฟัง ต้องรู้อะไรบ้าง

ก่อนซื้อเครื่องช่วยฟัง ต้องรู้อะไรบ้าง



ก่อนซื้อเครื่องช่วยฟัง ต้องรู้อะไรบ้าง

      สำหรับใครที่คนใกล้ตัว หรือ ตัวคุณเองมีปัญหาการได้ยิน และ อยากจะซื้อ เครื่องช่วยฟัง มาใช้เพื่อแก้ปัญหา เพราะคิดว่าการทำงานของตัวเครื่อง นั้น จะเหมือนกับหูฟัง ที่คุณใส่ฟังเพลง ใส่เพื่อพูดคุยแบบ Bluetooth หรือ สมอล ทอร์ค ที่ติดกับโทรศัพท์สมัยก่อน อยากจะบอกว่าคุณคิดผิดแล้ว เครื่องช่วยฟัง แตกต่างจากสิ่งที่คุณเข้าใจอย่างสิ้นเชิง และถ้าคุณซื้อมาใช้เลยจะทำให้คุณเสีย เงินฟรีอย่างแน่นอน และ อาจจะทำให้คุณจากหูตึงเป็นหูหนวกได้อีกด้วย

 


ความต่างของเครื่องช่วยฟัง กับ หูฟังทั่วไป

      เครื่องช่วยฟังจะเป็นเหมือนกับไมค์และลำโพงในตัวเดียวกัน ซึ่งจะต่างจาก หูฟังทั่วไปที่มีขายตามท้องตลาด ที่จะมีแค่ตัวลำโพงสำหรับขยายเสียง และ ไฟล์เสียงที่หูฟังขยายก็ถูกตกแต่งให้มีความชัด หรือ แม้แต่ตอนที่ใช่หูฟังใน การสนทนาทางโทรศัพท์ ตัวโทรศัพท์เองก็ได้ทำการแต่งเสียงก่อนจะส่งไปถึง คุณที่เป็นปลายทาง แต่กับเครื่องช่วยฟังจะไม่เหมือนกัน เพราะตัวเครื่องช่วยฟัง จะรับเสียงจากผู้พูดและมาขยายเสียงในขณะนั้นเลย จึงทำให้การทำงานต้องมี ความซับซ่อนมากกว่า และ เครื่องช่วยฟังจะขยายตามย่านความถี่ที่ตรงกับ การสูญเสียการได้ยิน ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น แว่นสายตา ที่จะมีความชัดเฉพาะ กับค่าสายตาของผู้ใช้ แต่ถ้าคุณเป็นคนปกติมาใส่ จึงทำให้มองไม่ชัดนั้นเอง


5 ข้อที่ควรรู้ก่อนซื้อเครื่องช่วยฟัง

1. เครื่องช่วยฟังมีระบบอะไรบ้าง เครื่องช่วยฟังที่มีขาย ณ ปัจจุบันจะมีด้วยกัน 2 ระบบ คือ ระบบดิจิตอล และ ระบบอนาล็อค โดยระบบอนาล็อคจะเป็นระบบ เครื่องช่วยฟังแบบเก่า ที่รับสัญญาณเสียงมาแล้วแปลงสู่ลำโพงเลย จึงทำให้ ระบบอนาล็อคจะไม่สามารถลดเสียงรบกวนได้ ซึ่งจะแตกต่างจากระบบดิจิตอล ที่เป็นระบบใหม่จะแปลงสัญญาณเสียงเป็นรหัส เพื่อแยกเป็น Chanel ดูว่า อันไหนคือคนพูด อันนั้นคือเสียงรบกวน ทำให้มีความชัด ฟังสบายกว่า

2. Channel คืออะไร จากข้อที่ 1 คุณรู้แล้วว่าเครื่องช่วยฟังดิจิตอลจะมี Channel เพื่อแยกเสียงต่างๆ ที่นี่เมื่อ Channel เยอะ ยิ่งทำให้การแยกเสียงนั้นมีความ ละเอียดยิ่งขึ้น ทำให้ความชัดของการฟังใกล้เคียงกับหูเดิมที่เสียไปของคุณ และยิ่ง Channel เยอะ ก็ยิ่งทำให้เครื่องช่วยฟังมีราคาสูงขึ้นเช่นกัน

3. ต้องรู้ระดับการได้ยินของตัวคุณเอง ก่อนซื้อเครื่องช่วยฟังทุกครั้งคุณจะ ต้องรู้ก่อนว่าตัวคุณเองนั้น สูญเสียการได้ยินในระดับไหน เพราะหากคุณไม่รู้ และซื้อเครื่องช่วยฟังเลย ทำให้เสียงที่ขยายจากเครื่องช่วยฟังนอกจากจะ ขยายช่วงความถี่ความดังที่คุณสูญเสียการได้ยินแล้ว ยังจะขยายในช่วงที่คุณ ไม่สูญเสียการได้ยินด้วย จึงทำให้หูของคุณแย่ลงไปมากกว่าเดิม การตรวจ การได้ยินก่อนใส่เครื่องจึงสำคัญเอามากๆ ที่จะช่วยให้คุณแก้ปัญหาการได้ยิน ได้อย่างตรงจุดที่สุด

4. ต้องทดลองเครื่องก่อนซื้อ เพียงแค่การตรวจการได้ยินและ ซื้อเครื่องไม่พอ คุณจะต้องทดลองเครื่องก่อนซื้อด้วย เพราะเครื่องช่วยฟังที่ทางร้านแนะนำ จริงอยู่จะตรงกับผลตรวจของคุณ แต่เสียงจากตัวเครื่องจะถูกใจคุณหรือไม่ เสียงจะดังเกินไป เสียงก้องเกินไป เสียงแหลมเกินไป จึงต้องทดลองเครื่องและ ให้นักแก้ไขการได้ยินช่วยตั้งค่าตัวเครื่องให้ตรงกับเสียงที่คุณต้องการ

5. เครื่องช่วยฟังแบบตรวจการได้ยินแพง เมื่อก่อนอาจจะแพงจริง ในเรื่องของ ค่าใช้จ่ายในการตรวจการได้ยิน และ ราคาเครื่องช่วยฟัง แต่ปัจจุบันไม่ใช่แบบ นั้นแล้วเพราะเทคโนโลยีที่พัฒนาทำให้ราคาเครื่องถูกลง เหลือเพียงหลักพัน ซึ่งแพงกว่าเครื่องสำเร็จรูปนิดเดียว และ หากคุณมีสิทธิ์เบิกประกันสังคม เบิกข้าราชการก็สามารถใช้ได้โดยเบิกได้สูงสุดอยู่ที่ 12,500 บาท

 


 

NexTone มีบริการตรวจการได้ยินฟรี และ ราคาเครื่องเริ่มต้นเพียง 7,890 บาท

ร้านเครื่องข่วยฟังnextone
CALL CENTER เปิดบริการ พุธ-อาทิตย์ ( 9.00 น. - 18.00 น.) ปิดทุกวันจันทร์และอังคาร

บริการให้คำปรึกษา / โทรนัดหมายล่วงหน้า